ยินดีต้อนรับสู่เว็บไซต์หลักสูตรวิทยาการคอมพิวเตอร์จาก Code.org
ซึ่งประกอบไปด้วยสื่อการเรียนรู้ที่หลากหลาย เช่น หลักสูตรวิทยาการคอมพิวเตอร์ แผนการสอนสำหรับครู และบทเรียนสำหรับนักเรียน
เพื่อพัฒนาทักษะการคิดเชิงคำนวณและความรู้เท่าทันปัญญาประดิษฐ์ สำหรับศตวรรษที่ 21
คุณกำลังมองหาเว็บไซต์หลัก ประเทศสหรัฐอเมริกา ใช่หรือไม่?
Code.org เป็นองค์กรไม่แสวงหาผลกำไรจากสหรัฐอเมริกาที่มุ่งมั่นขยายโอกาสในการเข้าถึงการศึกษาด้านวิทยาการคอมพิวเตอร์ โดยให้บริการบทเรียนการเขียนโปรแกรม หลักสูตร และสื่อการเรียนรู้สำหรับนักเรียนทุกช่วงวัย รวมถึงการพัฒนาวิชาชีพและเครื่องมือการสอนสำหรับครู
สื่อการสอนและบทเรียนของเราครอบคลุมหลากหลายหัวข้อในด้านวิทยาการคอมพิวเตอร์ การคิดเชิงคำนวณ และการศึกษาปัญญาประดิษฐ์ สำหรับเด็กอายุ 5-18 ปี ทั้งหมดให้บริการฟรี รองรับมากกว่า 30 ภาษา และมีนักเรียนหลายล้านคนใช้งานในแต่ละปี
ทำให้วิทยาการคอมพิวเตอร์เป็นเรื่องเข้าถึงง่ายและน่าตื่นเต้น ด้วยบทเรียนที่มีปฏิสัมพันธ์ ซึ่งออกแบบมาสำหรับผู้เรียนทุกระดับ
เตรียมความพร้อมด้วยสื่อการสอนที่ใช้งานง่ายและเป็นมิตรกับครู ไม่จำเป็นต้องมีพื้นฐานการเขียนโปรแกรม
พัฒนาทักษะสำคัญสำหรับอนาคตผ่านการลงมือเขียนโปรแกรม การแก้ปัญหา และการคิดเชิงคำนวณ
สอดคล้องกับมาตรฐานการศึกษา ผ่านการวิจัยรองรับ และพัฒนาอย่างต่อเนื่องเพื่อตอบโจทย์ห้องเรียนยุคใหม่
หลักสูตรไม่มีค่าใช้จ่าย พร้อมแผนการสอนที่ปรับให้เหมาะกับทุกตารางเรียน ทุกระดับชั้น และทุกสไตล์การสอน
เข้าร่วมเครือข่ายครูจากทั่วโลกที่นำวิทยาการคอมพิวเตอร์ไปสู่ทุกนักเรียน ทุกที่ ทุกเวลา
เมื่อคุณใช้หลักสูตรของ Code.org คุณจะมีทุกอย่างพร้อมสำหรับการสอน ภายในหลักสูตรมีคำถามที่คุณสามารถใช้ถามนักเรียน มีบทเรียนที่คุณต้องสอน และมีแนวทางแนะนำวิธีการสอนให้กับคุณหากคุณไม่มีประสบการณ์ด้านวิทยาการคอมพิวเตอร์มาก่อน หลักสูตรนี้ก็พร้อมช่วยเหลือคุณ และหากคุณมีประสบการณ์ในการสอนวิชานี้แล้ว Code.org จะช่วยให้คุณค้นพบแนวทางใหม่ๆ ในการสอนนักเรียนของคุณ
ปัญญาประดิษฐ์ไม่ใช่เรื่องมหัศจรรย์… แต่เป็นเพียงโค้ด! หลักสูตรของเราช่วยให้ AI เป็นเรื่องเข้าใจง่าย และเปิดโอกาสให้นักเรียนได้เรียนรู้ว่าระบบอัจฉริยะนี้กำลังเปลี่ยนแปลงวิถีชีวิต การทำงาน และการเรียนรู้ของเราอย่างไรนักเรียนจะได้ศึกษาพื้นฐานของ AI ซึ่งจะจุดประกายความสนใจด้านเทคโนโลยี พร้อมทั้งช่วยให้พวกเขาเข้าใจโลกที่อยู่รอบตัวได้ลึกซึ้งยิ่งขึ้น
แนะนำพื้นฐานของ AI เชิงสร้างสรรค์และหลักการทำงาน ครอบคลุมเครือข่ายประสาทเทียม การฝังตัว และวิธีการฝึกแบบจำลองภาษาขนาดใหญ่เพื่อให้สามารถเข้าใจและแสดงออกทางภาษาได้
เน้นทักษะการปรับแต่งแบบจำลอง AI โดยใช้เทคนิคต่างๆ เช่น Promt Engineering และการดึงข้อมูลเพื่อเสริมแบบจำลอง พร้อมทั้งส่งเสริมความโปร่งใสในการใช้งานแบบจำลองด้วยการ์ดข้อมูล
แนะนำนักเรียนให้รู้จัก AI และการเรียนรู้ของเครื่องผ่านกิจกรรมเชิงปฏิบัติ โดยใช้แบบจำลองข้อมูลเชิงคาดการณ์ นักเรียนจะฝึกทำนายผลด้วยตนเอง และเรียนรู้เกี่ยวกับการจัดหมวดหมู่และการเรียงลำดับข้อมูล
ช่วยให้ AI ทำความสะอาดมหาสมุทรโดยฝึกให้สามารถตรวจจับขยะ! เรียนรู้เกี่ยวกับข้อมูลการฝึกอบรม ความอคติ (bias) ใน AI และวิธีที่ AI สามารถช่วยแก้ไขปัญหาของโลกได้
เรียนรู้แนวคิดเกี่ยวกับปัญญาประดิษฐ์ (AI) และสร้างปาร์ตี้เต้นรำเสมือนจริงของคุณเอง พร้อมโชว์ผลงานของศิลปินชั้นนำในปัจจุบัน! โดยมีเพลงให้เลือกมากมาย เพื่อให้นักเรียนสนุกกับดนตรีในแบบที่พวกเขาชื่นชอบ เอาล่ะ...ได้เวลาวาดลวดลายแล้ว!
พร้อมจะผสมผสานดนตรีกับโค้ดแล้วหรือยัง?
ใน Music Lab: Jam Session นักเรียนจะได้รีมิกซ์เพลงจากศิลปินดังอย่าง Sabrina Carpenter, Lady Gaga และ Shakira พร้อมกับเรียนรู้ทักษะการเขียนโค้ดสุดเจ๋ง เช่น การจัดลำดับและการสร้างจังหวะด้วย AI และนี่คือวิธีสนุกๆ ในการปลดปล่อยความคิดสร้างสรรค์ผ่านการเขียนโค้ด!
ทำความเข้าใจว่าอะไรที่ทำให้คอมพิวเตอร์เป็นคอมพิวเตอร์ เรียนรู้ว่าข้อมูลถูกแทนค่าในรูปแบบ 1 และ 0 อย่างไร การทำงานของวงจรคอมพิวเตอร์ในการประมวลผลข้อมูลดิจิทัล รวมถึงบทบาทของหน่วยประมวลผลกลาง (CPU) และระบบปฏิบัติการในการควบคุมอินพุต เอาต์พุต หน่วยความจำ และฮาร์ดแวร์ของคอมพิวเตอร์ รับชมเพลย์ลิสต์ฉบับเต็ม และ แผนการสอน ที่เกี่ยวข้อง
ชุดการเรียนรู้ออนไลน์พื้นฐานสำหรับครูและนักการศึกษาทุกคนที่สนใจโลกแห่งปัญญาประดิษฐ์ (AI) ที่กำลังปฏิวัติวงการ และมีศักยภาพในการเปลี่ยนแปลงการศึกษา ดูเพลย์ลิสต์ฉบับเต็ม
Computer Science Fundamentals (CSF) เป็นชุดหลักสูตรวิทยาการคอมพิวเตอร์ระดับประถมศึกษาที่เปิดให้ใช้งานฟรี ประกอบด้วย 6 หลักสูตรย่อยที่ออกแบบมาเฉพาะตามระดับชั้น โดยแต่ละหลักสูตรมี 13–20 บทเรียน เหมาะสำหรับผู้เริ่มต้น และสอดคล้องกับมาตรฐาน CSTA Standards หลักสูตรเหล่านี้ช่วยให้นักเรียนได้เรียนรู้แนวคิดพื้นฐาน ส่งเสริมโอกาสการเรียนรู้ที่เท่าเทียม และศึกษาผลกระทบของคอมพิวเตอร์และเทคโนโลยีต่อโลกปัจจุบัน
เรียนรู้การเขียนโปรแกรมโดยใช้คำสั่ง เช่น วนซ้ำ (Loops) และเหตุการณ์ (Events) ฝึกให้นักเรียนทำงานร่วมกับผู้อื่น ค้นหาวิธีการแก้ปัญหาต่างๆ ฝึกความพยายามในการทำงานที่ท้าทาย และเรียนรู้เกี่ยวกับความปลอดภัยทางอินเทอร์เน็ต
เรี่ยนรู้ผ่านกิจกรรมแบบ Unplugged และเกมปริศนา (puzzle) หลากหลายรูปแบบ นักเรียนจะได้เรียนรู้พื้นฐานของการเขียนโปรแกรม เทคนิคการทำงานร่วมกัน ทักษะการสืบค้นและคิดวิเคราะห์ ความพยายามเมื่อเผชิญกับปัญหาที่ยาก และแนวทางความปลอดภัยบนอินเทอร์เน็ต
สร้างโปรแกรมโดยใช้การจัดลำดับคำสั่ง (Sequencing), วนซ้ำ (Loops) และเหตุการณ์ (Events) ค้นหาวิธีการแก้ปัญหา และพัฒนาแนวทางเพื่อสร้างสังคมออนไลน์และออฟไลน์ที่ดีขึ้น นักเรียนสร้างเกมที่สามารถโต้ตอบและสามารถแบ่งปันกับผู้อื่นได้
ทบทวนแนวคิดที่ได้เรียนรู้จากหลักสูตรก่อนหน้านี้ รวมถึงการวนซ้ำและเหตุการณ์ จากนั้นนักเรียนจะได้พัฒนาความเข้าใจเกี่ยวกับอัลกอริทึม การวนซ้ำแบบซ้อน (Nested Loops), การวนซ้ำแบบ While, เงื่อนไข (Conditionals) และแนวคิดอื่นๆ
สร้างผลงานที่สนุกและโต้ตอบได้เพื่อเสริมความเข้าใจเกี่ยวกับความปลอดภัยบนโลกออนไลน์ เรียนรู้การเขียนโค้ดที่ซับซ้อนยิ่งขึ้น เช่น การวนซ้ำแบบซ้อน (Nested Loops), ฟังก์ชัน (Functions) และเงื่อนไข (Conditionals)
ศึกษาว่าผู้ใช้ตัดสินใจเลือกใช้งานแอปต่างๆ ได้อย่างไร ออกแบบแอปหลากหลายรูปแบบใน Sprite Lab ที่เปิดโอกาสให้ผู้ใช้สามารถเลือกการกระทำได้ ศึกษาแนวคิดขั้นสูงเพิ่มเติม รวมถึงตัวแปร (Variables) และการวนซ้ำแบบ "for"
หลักสูตรนี้ครูมีบทบาทสำคัญต่อการเรียนรู้ของนักเรียนผ่านการสอนกิจกรรม Unplugged และการนำอภิปรายในชั้นเรียน เนื่องจากหลักสูตร CS Fundamentals อาจไม่ได้ถูกสอนในห้องเรียนแบบดั้งเดิมเสมอไปเราจึงพัฒนา หลักสูตรตามระดับการเรียนรู้ของตนเอง (Self-Paced Express Courses) จำนวนสองหลักสูตรควบคู่ไปกับหลักสูตร A-F เพื่อรองรับสถานการณ์ที่ครูให้นักเรียนเรียนรู้ด้วยตนเองตามความเร็วของแต่ละคน
เรียนรู้พื้นฐานของการเขียนโค้ดแบบลากและวาง (Drag-and-Drop Block Coding) ผ่านการแก้ปริศนาและสร้างฉากแอนิเมชัน ออกแบบงานศิลปะและเกมง่ายๆ เพื่อแบ่งปันกับเพื่อน ครอบครัว และครู
เรียนรู้การสร้างโปรแกรมคอมพิวเตอร์ พัฒนาทักษะการแก้ปัญหา และฝ่าฟันความท้าทายที่สนุกสนาน! สร้างเกมและโครงการสร้างสรรค์เพื่อนำไปแบ่งปันกับเพื่อน ครอบครัว และครู
Computer Science Discoveries (CSD) เป็นหลักสูตรที่เปิดให้ใช้งานฟรี ออกแบบมาเพื่อแนะนำแนวคิด การคิดเชิงคำนวณ และ ความรู้เท่าทันปัญญาประดิษฐ์ (AI Literacy) สำหรับนักเรียนระดับมัธยมศึกษาปีที่ 1-6 หลักสูตรนี้ช่วยให้นักเรียนได้เรียนรู้การสร้างเว็บไซต์ แอปพลิเคชัน แอนิเมชัน เกม และระบบคอมพิวเตอร์แบบกายภาพ พร้อมทำความเข้าใจพื้นฐานของปัญญาประดิษฐ์หลักสูตร CSD สนับสนุนให้นักเรียนสร้าง ชิ้นงานจริง (Authentic Artifacts) และใช้วิทยาการคอมพิวเตอร์เป็นเครื่องมือสำหรับ ความคิดสร้างสรรค์ การสื่อสาร การแก้ปัญหา และความสนุกสนาน โดยไม่จำเป็นต้องมีพื้นฐานมาก่อน!
การแก้ปัญหาและวิทยาการคอมพิวเตอร์
ใช้กระบวนการแก้ปัญหาเพื่อรับมือกับความท้าทายของปัญหาและสถานการณ์ในชีวิตจริง เรียนรู้เกี่ยวกับอินพุต เอาต์พุต หน่วยความจำ และการประมวลผลของคอมพิวเตอร์เพื่อนำมาใช้ในการแก้ปัญหา
การพัฒนาเว็บไซต์
สร้างและแบ่งปันเนื้อหาบนหน้าเว็บ สำรวจศักยภาพในการสร้างสรรค์ของเว็บ ฝึกทักษะการคิดวิเคราะห์ ความสามารถในการแก้ปัญหา และการทำงานเป็นทีมผ่านการเขียนโปรแกรม
แอนิเมชันและเกมแบบโต้ตอบได้
สร้างภาพ โปรแกรมแอนิเมชัน ศิลปะแบบโต้ตอบ และเกม เรียนรู้แนวคิดการเขียนโปรแกรม พร้อมทำความเข้าใจกระบวนการออกแบบ
กระบวนการออกแบบ
มุ่งเน้นไปที่ผลกระทบของคอมพิวเตอร์ที่มีต่อสังคม ผ่านโจทย์ออกแบบ (Design Challenges) นักเรียนจะได้ฝึกทำความเข้าใจความต้องการของผู้อื่น และพัฒนาวิธีแก้ปัญหา
ข้อมูลและสังคม
เน้นบทบาทของข้อมูลในการแก้ปัญหา และวิธีที่คอมพิวเตอร์ช่วยในกระบวนการนี้ ครอบคลุมระบบแทนค่าข้อมูลและความท้าทายที่เกี่ยวข้อง ค้นพบว่าการเก็บรวบรวมข้อมูลช่วยในการแก้ปัญหาได้อย่างไร
การสร้างแอพด้วยอุปกรณ์และเครื่องมือ
สำรวจบทบาทของอุปกรณ์กายภาพในระบบคอมพิวเตอร์ พัฒนาโปรแกรมที่ใช้ฮาร์ดแวร์สำหรับรับและส่งข้อมูล (Inputs และ Outputs) มีเวอร์ชันสำหรับ micro:bit และ Circuit Playground
ปัญญาประดิษฐ์และการเรียนรู้ของเครื่อง
สำรวจวิธีที่คอมพิวเตอร์เรียนรู้จากข้อมูล พัฒนาผลงานการเรียนรู้ของเครื่อง (Machine Learning) โดยใช้ข้อมูลจากสถานการณ์จริง ออกแบบแอปพลิเคชันที่ใช้การเรียนรู้ของเครื่องเพื่อแก้ปัญหาที่เกี่ยวข้องกับชีวิตของตนเอง
หลักสูตรที่ครอบคลุมแนวคิด การคิดเชิงคำนวณและการรู้เท่าทันปัญญาประดิษฐ์ (AI Literacy) พร้อมแนะนำให้นักเรียนเรียนรู้การสร้างเว็บไซต์ แอปพลิเคชัน แอนิเมชัน เกม และระบบ physical computing รวมถึงทำความเข้าใจพื้นฐานของปัญญาประดิษฐ์
หลักสูตร CSAIF ส่งเสริมให้นักเรียนสร้างชิ้นงานจริง (Authentic Artifacts) และมีส่วนร่วมกับวิทยาการคอมพิวเตอร์ในฐานะเครื่องมือสำหรับ ความคิดสร้างสรรค์ การสื่อสาร การแก้ปัญหา และความสนุกสนาน โดยไม่จำเป็นต้องมีพื้นฐานมาก่อน! ซึ่งแต่ละหน่วยการเรียนรู้ของ CS Discoveries สามารถนำมาใช้แยกกันได้โดยไม่ต้องมีความรู้พื้นฐานมาก่อน ทำให้สามารถเลือกหน่วยที่เหมาะสมกับห้องเรียนของคุณได้อย่างอิสระ
Generative AI
บทเรียนนี้ช่วยสร้างความเข้าใจพื้นฐานเกี่ยวกับ โมเดล AI เชิงสร้างสรรค์ (Generative AI) ที่ใช้ข้อความ โดยเน้นแนวคิดหลักมากกว่าทักษะทางเทคนิค นักเรียนจะได้เรียนรู้โครงสร้างภายในของโมเดล AI ผ่านแนวคิดที่คุ้นเคย เช่น อินพุต หน่วยความจำ การประมวลผล และเอาต์พุต รวมถึงทำความเข้าใจวิธีที่โมเดลเหล่านี้แทนค่าภาษา ผลกระทบของข้อมูลการฝึกต่อประสิทธิภาพของโมเดล และความเป็นไปได้ของอคติ (bias) ใน AI
การเขียนโปรแกรมเบื้องต้น
บทเรียนนี้ให้พื้นฐานทักษะการเขียนโปรแกรมผ่านการเรียนรู้ผ่านโครงงานเป็นฐาน (Project-Based Learning) โดยมุ่งเน้นไปที่ การใช้งานจริงของภาษา Python ครอบคลุม ตัวแปร โครงสร้างควบคุม ลูป ฟังก์ชัน และอัลกอริทึม
ระบบคอมพิวเตอร์และอุปกรณ์
บทเรียนนี้ช่วยให้นักเรียนสำรวจการทำงานของระบบคอมพิวเตอร์ โดยเน้นการทำงานร่วมกันระหว่าง ฮาร์ดแวร์ ซอฟต์แวร์ และระบบปฏิบัติการ
เครือข่ายและอินเทอร์เน็ต
บทเรียนนี้แนะนำแนวคิดพื้นฐานของเครือข่ายคอมพิวเตอร์ โดยเน้นกระบวนการส่งข้อมูลผ่านระบบที่เชื่อมต่อกันจนเกิดเป็นอินเทอร์เน็ต ครอบคลุมหัวข้อสำคัญ เช่น โปรโตคอลอินเทอร์เน็ต (IP, TCP, HTTP, DNS), การสื่อสารข้อมูล และผลกระทบของโครงสร้างเครือข่ายต่อสังคม
ความปลอดภัยทางไซเบอร์และผลกระทบระดับโลก
บทเรียนนี้ช่วยให้นักเรียนเข้าใจพื้นฐานของ ความปลอดภัยทางไซเบอร์ (Cybersecurity) โดยเน้นทั้ง แนวคิดทางเทคนิคและผลกระทบต่อสังคม นักเรียนจะได้เรียนรู้เกี่ยวกับ ความเป็นส่วนตัวของข้อมูล ความเสี่ยงด้านความปลอดภัย เทคนิคการเข้ารหัส และบทบาทของข้อผิดพลาดจากมนุษย์ในการละเมิดข้อมูล
วิทยาศาสตร์ข้อมูลเบื้องต้น
บทเรียนนี้ช่วยให้นักเรียนเข้าใจ กระบวนการของวิทยาศาสตร์ข้อมูล ตั้งแต่ การรวบรวมข้อมูล การจัดระเบียบ และการตีความ นักเรียนจะได้ฝึกใช้ เทคนิคทางสถิติ สำรวจแนวโน้มของข้อมูล และอภิปรายเกี่ยวกับจริยธรรมและความเป็นส่วนตัวของข้อมูล
คลิปวิดีโอชุดนี้จะช่วยให้คุณเข้าใจการทำงานของอินเทอร์เน็ต อธิบายเกี่ยวกับ HTTP และ HTML และให้ความกระจ่างเกี่ยวกับ SSL และความปลอดภัยทางไซเบอร์ (Cybersecurity) ในวิดีโอนี้ คุณจะได้พบกับ Vint Cerf ผู้คิดค้นโปรโตคอล TCP/IP, David Karp ผู้ก่อตั้ง Tumblr, Google’s Security Princess, และวิศวกรจาก Microsoft, Spotify และ Symantec ดูเพลย์ลิสต์ฉบับเต็ม
อินเทอร์เน็ตเป็นระบบเปิด ซึ่งหมายความว่าทุกสิ่งที่เกิดขึ้นบนอินเทอร์เน็ตสามารถถูกมองเห็นได้เว้นแต่ว่าจะมีการป้องกัน ในประเทศที่พัฒนาแล้วผู้คนกังวลเกี่ยวกับการถูกแฮ็กมากกว่าการก่ออาชญากรรมประเภทอื่นๆ ทำไมถึงเป็นเช่นนั้น? เพราะทุกคอมพิวเตอร์หรือโทรศัพท์ที่เชื่อมต่อกับอินเทอร์เน็ตถูกทดสอบหาช่องโหว่อยู่ตลอดเวลา ไม่ว่าจะโดยอาชญากร ผู้ก่อการร้าย หรือแม้แต่กลุ่มที่ได้รับการสนับสนุนจากรัฐ หากคุณไม่ระมัดระวัง อาจมีผู้แฮ็กอุปกรณ์หรือบัญชีของคุณ และอาจขโมยตัวตนหรือเงินของคุณไปได้ ดูเพลย์ลิสต์แบบเต็ม
คลิปวิดีโอชุดนี้ผลิตขึ้นโดยความร่วมมือกับ Coinbase วิดีโอชุดนี้นำเสนอโดยผู้เชี่ยวชาญในอุตสาหกรรม และมีเป้าหมายเพื่อทำให้เทคโนโลยีนี้เข้าใจง่ายขึ้น โดยสำรวจว่าบล็อกเชนคืออะไร ทำงานอย่างไร และผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นต่อสังคม ทั้งด้านบวกและด้านลบ ดูเพลย์ลิสต์ฉบับเต็ม ประกอบกับ แผนการสอน
Hour of Code เป็นกิจกรรมระดับโลกที่แนะนำให้นักเรียนรู้จักวิทยาการคอมพิวเตอร์ผ่านกิจกรรมการเขียนโค้ดภายในหนึ่งชั่วโมง กิจกรรมนี้จัดขึ้นเพื่อสร้างแรงบันดาลใจให้นักเรียนสนใจและมุ่งมั่นศึกษาด้านวิทยาการคอมพิวเตอร์ในอนาคต ค้นหากิจกรรม Hour of Code
ในบทเรียนนี้ นักเรียนจะใช้ Music Lab เพื่อพัฒนาทักษะการเขียนโค้ด ประพันธ์เพลง และเชื่อมโยงเทคโนโลยีกับความคิดสร้างสรรค์
สร้างปาร์ตี้เต้นรำของคุณเองด้วยโค้ด แล้วแบ่งปันกับเพื่อนๆ! มีเพลงให้เลือกมากมาย รองรับนักเรียนทุกคนไม่ว่าพวกเขาจะชอบแนวเพลงแบบใด ได้เวลาปลดปล่อยจังหวะของคุณแล้ว!
สร้างและสำรวจไปกับ Minecraft! ใช้ความคิดสร้างสรรค์และทักษะการแก้ปัญหาเพื่อออกสำรวจและสร้างโลกใหม่ด้วยโค้ด
สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) เป็นหน่วยงานของรัฐในสังกัดกระทรวงศึกษาธิการ มีหน้าที่ดูแลและพัฒนาการศึกษาขั้นพื้นฐานของประเทศไทย ตั้งแต่ระดับปฐมวัยจนถึงระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย นอกจากนี้ยังสนับสนุนการศึกษาสำหรับนักเรียนที่มีความต้องการพิเศษและการศึกษาทางเลือก สพฐ. มุ่งเน้นการปรับปรุงคุณภาพการศึกษา ส่งเสริมการเข้าถึงโอกาสการเรียนรู้อย่างเท่าเทียมกัน และพัฒนาหลักสูตรที่สอดคล้องกับความก้าวหน้าสมัยใหม่ เพื่อเตรียมนักเรียนให้พร้อมสำหรับอนาคต
สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (สสวท.) เป็นองค์การมหาชนภายใต้ กระทรวงศึกษาธิการ ที่มุ่งมั่นพัฒนาการศึกษาด้าน วิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์ และเทคโนโลยี ในประเทศไทย สสวท. ดำเนินการพัฒนา หลักสูตรแกนกลาง เครื่องมือและสื่อการเรียนรู้ ตลอดจนมาตรฐานและการประเมินคุณภาพ พร้อมทั้งอบรมพัฒนาครู ส่งเสริมนักเรียน และกำหนดนโยบายด้านการศึกษาสสวท. ทำงานร่วมกับ ครู ผู้บริหารสถานศึกษา หน่วยงานภาครัฐ และองค์กรนานาชาติ เพื่อส่งเสริมการคิดเชิงวิทยาศาสตร์ และยกระดับคุณภาพการศึกษาวิทยาศาสตร์ของไทยให้เทียบเท่ามาตรฐานสากล
ข้อมูลพันธมิตรกำลังจะมาในเร็วๆนี้
ในศตวรรษที่ 21 วิทยาการคอมพิวเตอร์ (Computer Science - CS) และการคิดเชิงโปรแกรม (Programmatic Thinking) ได้กลายเป็นเครื่องมือที่ขาดไม่ได้ในการดำเนินชีวิตในโลกดิจิทัลที่เติบโตอย่างรวดเร็ว แม้ว่าหลายคนจะเชื่อมโยงการศึกษาวิทยาการคอมพิวเตอร์กับอาชีพที่มีค่าตอบแทนสูง เช่น วิศวกรรมซอฟต์แวร์หรือเทคโนโลยี แต่ประโยชน์ของวิทยาการคอมพิวเตอร์ขยายไปไกลกว่าภาคเทคโนโลยี
การบูรณาการ CS และ STEM ในหลักสูตรระดับ K-12 ช่วยให้นักเรียนมีความพร้อมในทุกเส้นทางอาชีพ ตั้งแต่การเกษตรและการบริการ ไปจนถึงอุตสาหกรรมการผลิตและอื่นๆ อีกมากมาย โดยพัฒนาทักษะที่สำคัญ เช่น การแก้ปัญหา การปรับตัว และความคิดสร้างสรรค์ ซึ่งเป็นทักษะจำเป็นสำหรับความสำเร็จในทุกสาขาอาชีพและเป้าหมายในชีวิต
การคิดเชิงคำนวณ: กรอบแนวคิดสำคัญสำหรับทุกสาขาอาชีพ
การศึกษาวิทยาการคอมพิวเตอร์ช่วยให้นักเรียนพัฒนาทักษะ การคิดเชิงคำนวณ (Computational Thinking) ซึ่งเป็นกรอบแนวคิดในการแก้ปัญหาที่เน้นการแบ่งปัญหาซับซ้อนออกเป็นส่วนย่อย การจดจำรูปแบบ และการสร้างแนวทางแก้ไขที่เป็นระบบแนวคิดนี้ไม่ได้จำกัดเฉพาะการเขียนโค้ดเท่านั้น แต่ยังสามารถนำไปใช้ในอุตสาหกรรมอื่นๆ ได้เช่นกัน เช่น เกษตรกร สามารถใช้การคิดเชิงคำนวณในการวิเคราะห์ผลผลิตพืชและรูปแบบสภาพอากาศ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการใช้ทรัพยากรและปรับปรุงผลผลิตผู้ให้บริการด้านการโรงแรม สามารถนำแนวคิดนี้ไปใช้ปรับปรุงกระบวนการทำงาน หรือวิเคราะห์ความคิดเห็นของลูกค้าเพื่อยกระดับประสบการณ์ของแขกเมื่อเรียนรู้การคิดเชิงโปรแกรม นักเรียนจะได้รับเครื่องมือที่ช่วยให้พวกเขาสามารถแก้ปัญหาในโลกแห่งความเป็นจริงได้อย่างเป็นระบบและมีประสิทธิภาพ ไม่ว่าสายอาชีพของพวกเขาจะเป็นแบบใดก็ตาม
การพัฒนาความสามารถในการปรับตัวและความยืดหยุ่น
การศึกษาวิทยาการคอมพิวเตอร์ยังช่วยส่งเสริม ความสามารถในการปรับตัวและความยืดหยุ่น (Resilience and Adaptability) เนื่องจากการเขียนโปรแกรมมักเกี่ยวข้องกับการลองผิดลองถูก ทำให้นักเรียนเรียนรู้คุณค่าของความพยายามและบทเรียนจากข้อผิดพลาดในอุตสาหกรรมการผลิต แนวคิดเหล่านี้สามารถแปลงไปสู่ความสามารถในการแก้ไขปัญหาเชิงเทคนิค เช่น การแก้ไขปัญหาเครื่องจักร หรือการปรับปรุงกระบวนการผลิตให้มีประสิทธิภาพมากขึ้นในชีวิตจริง วิธีคิดนี้ช่วยสร้างความมั่นใจและทัศนคติเชิงบวกต่อการแก้ปัญหา ซึ่งเป็นคุณสมบัติสำคัญที่มีประโยชน์ในทุกด้านของชีวิต
ความคิดสร้างสรรค์: ทักษะที่มีอิทธิพลต่อทุกอุตสาหกรรม
อีกหนึ่งคุณค่าที่สำคัญของการศึกษาวิทยาการคอมพิวเตอร์คือ ความคิดสร้างสรรค์ (Creativity) การเขียนโค้ดเป็นกระบวนการสร้างสรรค์ที่ต้องใช้จินตนาการในการเปลี่ยนแนวคิดให้กลายเป็นสิ่งที่จับต้องได้แนวคิดนี้สามารถนำไปใช้ในทุกสาขา ตั้งแต่การออกแบบผลิตภัณฑ์ใหม่ การสร้างประสบการณ์การรับประทานอาหารที่น่าจดจำ หรือการพัฒนาวิธีการทำเกษตรกรรมที่ยั่งยืนนอกจากนี้ การเรียนรู้วิทยาการคอมพิวเตอร์ยังส่งเสริม การทำงานร่วมกัน (Collaboration) เนื่องจากนักเรียนต้องออกแบบ ทดสอบ และปรับปรุงโครงการร่วมกับผู้อื่น ซึ่งเป็นทักษะที่จำเป็นในทุกที่ทำงาน
สร้างความเข้าใจด้านเทคโนโลยีและลดช่องว่างทางดิจิทัล
การได้รับโอกาสเรียนรู้วิทยาการคอมพิวเตอร์ตั้งแต่ระดับ K-12 ช่วยให้เด็กๆ เข้าใจเทคโนโลยีและไม่รู้สึกว่ามันเป็นเรื่องไกลตัว การทำให้เด็กจากทุกพื้นเพมองเห็นตนเองเป็นส่วนหนึ่งของโลกดิจิทัลเป็นเรื่องสำคัญสิ่งนี้ช่วย ลดช่องว่างทางดิจิทัล (Digital Divide) ทำให้ทุกคนมีโอกาสที่เท่าเทียมกันในการใช้เทคโนโลยีเพื่อความสำเร็จในอนาคต ไม่เพียงแต่ในสายอาชีพ STEM เท่านั้น แต่ยังรวมถึงทุกสายอาชีพ
สรุป: CS ไม่ใช่แค่เส้นทางสู่อาชีพเทคโนโลยี แต่เป็นทักษะพื้นฐานที่จำเป็นต่ออนาคต
การศึกษาวิทยาการคอมพิวเตอร์ในระดับการศึกษาขั้นพื้นฐานไม่ได้เป็นเพียงทางเลือกสำหรับอาชีพที่มีรายได้สูงในอุตสาหกรรมเทคโนโลยี แต่คือทักษะพื้นฐานที่ช่วยพัฒนาเด็กทุกคน ไม่ว่าสายอาชีพของพวกเขาจะเป็นอะไร วิทยาการคอมพิวเตอรืช่วยให้นักเรียนพัฒนา การคิดเชิงวิเคราะห์ ความคิดสร้างสรรค์ และความสามารถในการปรับตัว ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญในการใช้ชีวิตและการทำงานในโลกที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วการบูรณาการการศึกษานี้ในทุกหลักสูตรจึงไม่ใช่เพียงการลงทุนเพื่ออนาคตของเทคโนโลยีเท่านั้น แต่เป็นการลงทุนเพื่ออนาคตของเด็กทุกคน
